วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สวนผักของชุมชนเก็บขยะ


ปี ๒๕๔๔ รัฐบาลได้จัดสรรที่อยู่อาศัยให้กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ใต้สะพาน เลี้ยงชีพด้วยการเก็บขยะขาย ในที่ดินของการเคหะแห่งชาติ ๓ แห่ง หนึ่งในนั้นคือ ชุมชนอ่อนนุช ๑๔ ไร่

ชาวชุมชนอ่อนนุช ๑๔ ไร่ ย่านถนนสุขาภิบาล ๒ เขตประเวศ กรุงเทพฯส่วนใหญ่ยังประกอบอาชีพเก็บขยะและของเก่าขาย 
คนทำอาชีพเก็บของเก่าขายมีรายได้ต่อวันไม่มากนัก 
            ปี ๒๕๔๖ ชาวชุมชนเกิดความคิดรวมกลุ่มทำ โครงการสหกรณ์ขยะ ดำเนินงานในนาม กลุ่มขยะรีไซเคิล ชุมชนอ่อนนุช ๑๔ ไร่
โดยให้สมาชิกนำขยะรีไซเคิลมาแลกสินค้าของใช้ประจำวันที่ร้านค้าสวัสดิการในราคาถูกกว่าท้องตลาด
ช่วงเริ่มต้นมีสมาชิกเพียง ๓ ครอบครัว ปัจจุบันขยายเป็น ๗๐ ครอบครัว 
กลุ่มประสบความสำเร็จ สามารถต่อยอดเป็นกิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่
ธนาคารขยะ ขยะประกันชีวิต ล่าสุดคือ สวนผักของชุมชน
ชุมชนแห่งนี้รู้จักคุ้นเคยกับมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืนฯ ชักชวนให้เข้าร่วมโครงการสวนผักคนเมือง
ชาวชุมชนส่วนใหญ่มีพื้นเพเป็นคนชนบท คุ้นเคยกับการทำเกษตรมาก่อน เมื่อรู้เรื่องนี้หลายคนก็สนใจ
ผู้ที่มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของก็คือ สมาชิกกลุ่มขยะรีไซเคิลฯ ทั้ง ๗๐ ครอบครัว
ปรับปรุงที่ดินสนามฟุตบอลกลางชุมชนที่ไม่มีใครมาใช้งาน เนื้อที่ ๗๒ ตารางวา ให้กลายเป็นสวนผัก
ขุดบ่อบาดาลสำหรับสูบน้ำมารดผัก ช่วยให้ประหยัดกว่าใช้น้ำประปา
แต่ละคนจะเจียดเวลาว่างในช่วงเย็นผลัดกันมาช่วยรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ดูแลพืชผักต่าง ๆ ที่ปลูกในสวน
นอกจากปลูกผัก ยังขุดบ่อเลี้ยงปลาไว้กลางสวน
 จุดเด่นอย่างหนึ่งที่เห็นจากสวนผักของชุมชนคนเก็บของเก่าก็คือ การนำเศษวัสดุเหลือทิ้งต่าง ๆ นานาที่หาได้มาใช้ประโยชน์ เช่น
ถุงกระสอบทรายจากช่วงน้ำท่วมนำมาเป็นถุงใส่ดินปลูกต้นไม้ 
ตะกร้า กะละมัง หรือกระเบื้องลอนทิ้งแล้วก็ทำเป็นภาชนะปลูกผักได้
แผ่นไม้หรืออิฐบล็อกนำมากั้นเป็นแปลงผัก
กรงสัตว์เลี้ยงที่รับซื้อมาเป็นเศษเหล็ก ก็นำมาครอบบนแปลงเพาะกล้าต้นเล็ก ๆ เพื่อกันฝูงนกมาจิกกิน
  เรื่องที่น่าสนใจก็คือ
นำขยะเปียกในครัวเรือน ประเภทเศษข้าว เศษอาหาร เศษผักและผลไม้ มาเทรวมในถังซีเมนต์เพื่อทำปุ๋ยหมักชีวภาพ สำหรับใช้บำรุงผักที่ปลูกในสวน
ด้วยวิธีนี้ขยะเปียกจำนวนมหาศาลของชุมชนจึงถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์อย่างได้ผล
ที่นี่ยังรับซื้อเศษใบไม้ด้วย กิโลกรัมละ ๒๕ สตางค์ สำหรับนำมาหมักปุ๋ย
สมาชิกเก็บผักไปกินได้ โดยนำเงินหยอดกระป๋องเพียง ๕-๑๐ บาท แล้วเก็บแต่พอกิน
เท่านี้ก็ได้ผักสดกลับไปทำอาหารที่บ้าน ราคาถูกกว่าซื้อในตลาดหรือรถขายกับข้าว
เงินในกระป๋องจะใช้สำหรับซื้อเมล็ดพันธุ์ผักมาปลูกครั้งต่อไป หรือเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงดูแลสวนผัก
บางครั้งมีคนข้างนอกที่อยากกินผักปลอดสารพิษ เดินทางเอาขยะรีไซเคิลมาขอแลกผักไปกินก็มี
ผักที่ปลูกในสวนนอกจากผักกินใบพื้นฐาน จำพวกคะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว ก็มีพืชผักพื้นบ้านที่ชาวบ้านหามาปลูก เช่น ต้นขี้เหล็ก ชะอม มะกล่ำตาหนู ผักปลัง หรือตะลิงปลิง
สมาชิกที่นี่กินง่าย ส่วนใหญ่เขามาเอาคะน้าหรือกวางตุ้ง ต้นสองต้นเขาก็ไปผัดกินกันในครอบครัว ลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ ถ้าซื้อกินก็เกือบ ๑๐๐ บาทต่อมื้อ แต่ตอนนี้เก็บคะน้าจากสวน มีปลาเค็มชิ้นหนึ่ง ๓๕ บาท ก็ผัดกินได้ ๒-๓ มื้อแล้ว
ดังนั้นการทำสวนผักจึงช่วยให้ชาวชุมชนประหยัดค่าใช้จ่าย ได้บริโภคผักสดที่ปลอดภัยจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทำให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วย
จักรพันธุ์ กังวาฬ
วิจิตต์ แซ่เฮ้ง
นิตยสารสารคดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น